แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แฟนคลับ
สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
สโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
เป็นสโมสรฟุตบอลตั้งอยู่ที่โอลด์แทรฟฟอร์ดในเกรเทอร์แมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันแข่งขันในพรีเมียร์ลีกซึ่งเป็นลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ สโมสรมีฉายา "ปีศาจแดง" ก่อตั้งในชื่อสโมสรฟุตบอลนิวตันฮีตแอลวายอาร์ใน ค.ศ. 1878 ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดใน ค.ศ. 1902 และย้ายไปเล่นที่สนามเหย้าปัจจุบันอย่างโอลด์แทรฟฟอร์ดใน ค.ศ. 1910
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชนะเลิศถ้วยรางวัลมากกว่าสโมสรอื่นในฟุตบอลอังกฤษ[5][6] โดยชนะเลิศลีก 20 สมัย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุด, เอฟเอคัพ 12 สมัย, ลีกคัพ 5 สมัย และเอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ 21 สมัย ซึ่งก็เป็นสถิติสูงสุดเช่นกัน ยูไนเต็ดยังชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 3 สมัย, ยูฟ่ายูโรปาลีก 1 สมัย, ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ 1 สมัย, ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 1 สมัย, อินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ 1 สมัย และฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 1 สมัย โดยในฤดูกาล 1998–99 สโมสรกลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษที่คว้าทริปเปิลแชมป์ระดับทวีปยุโรป[7] และในฤดูกาล 2016–17 หลังจากที่ชนะเลิศยูฟ่ายูโรปาลีก พวกเขากลายเป็นหนึ่งในห้าสโมสรที่ชนะเลิศการแข่งขันของยูฟ่าครบทั้งสามรายการ
ภัยพิบัติทางอากาศมิวนิกเมื่อ ค.ศ. 1958 คร่าชีวิตผู้เล่นแปดคน ต่อมาใน ค.ศ. 1968 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกลายเป็นสโมสรฟุตบอลแรกของอังกฤษที่ชนะเลิศยูโรเปียนคัพภายใต้การคุมทีมของแมตต์ บัสบี ต่อมาอเล็กซ์ เฟอร์กูสันพาทีมชนะเลิศถ้วยรางวัล 38 ใบในฐานะผู้จัดการทีม ซึ่งรวมพรีเมียร์ลีก 13 สมัย, เอฟเอคัพ 5 สมัย และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2 สมัยในระหว่าง ค.ศ. 1986 ถึง 2013[8][9][10] ซึ่งเป็นปีที่เขาประกาศเกษียณตัวเอง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่มีผู้สนับสนุนมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก[11][12] และมีสโมสรคู่ปรับคือ ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ซิตี, อาร์เซนอล และลีดส์ยูไนเต็ด
ยุคของเฟอร์กูสัน (1986–2013)
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชนะเลิศลีกอีกครั้งในฤดูกาล 1999–2000 และ 2000–01 และจบอันดับที่สามในฤดูกาล 2001–02 ก่อนที่จะกลับมาชนะเลิศอีกครั้งในฤดูกาล 2002–03[55] พวกเขาชนะเลิศเอฟเอคัพเป็นสมัยที่ 11 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุด ในฤดูกาล 2003–04 ด้วยการชนะมิลล์วอลล์ด้วยผลประตู 3–0 ในนัดชิงชนะเลิศที่มิลเลนเนียมสเตเดียมในคาร์ดิฟฟ์[56] ต่อมาในฤดูกาล 2005–06 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไม่สามารถผ่านเข้าสู่รอบแพ้คัดออกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ กว่าทศวรรษ[57] อย่างไรก็ตาม สโมสรสามารถจบอันดับที่สองในลีกและเอาชนะวีแกนแอทเลติกในฟุตบอลลีกคัพนัดชิงชนะเลิศ สโมสรชนะเลิศพรีเมียร์ลีกอีกครั้งในฤดูกาล 2006–07 และในฤดูกาลถัดมา สโมสรชนะเลิศลีกอังกฤษเป็นสมัยที่ 17 ก่อนที่จะคว้ายูโรเปียนดับเบิลแชมป์ด้วยการยิงลูกโทษเอาชนะเชลซีด้วยผลประตู 6–5 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2008 ที่มอสโก โดยไรอัน กิกส์ลงเล่นเป็นนัดที่ 759 ให้กับสโมสรในนัดนี้ ทำลายสถิติลงเล่นมากที่สุดให้กับสโมสรที่บ็อบบี ชาร์ลตัน เคยทำไว้[58] ต่อมาในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2008 สโมสรชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2008 และฟุตบอลลีกคัพ ฤดูกาล 2008–09 อีกทั้งยังชนะเลิศพรีเมียร์ลีกเป็นสมัยที่สามติดต่อกัน[59][60] ในช่วงฤดูร้อน ค.ศ. 2009 สโมสรขายคริสเตียโน โรนัลโดให้กับเรอัลมาดริดด้วยค่าตัวสถิติโลก 80 ล้านปอนด์[61] ต่อมาใน ค.ศ. 2010 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเอาชนะแอสตันวิลลาในลีกคัพที่เวมบลีย์ด้วยผลประตู 2–1 ทำให้สโมสรป้องกันแชมป์ฟุตบอลถ้วยแบบแพ้คัดออกได้เป็นครั้งแรก[62]
หลังจบอันดับที่สองรองจากเชลซีในฤดูกาล 2009–10 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกลับมาชนะเลิศลีกเป็นสมัยที่ 19 ได้ในฤดูกาล 2010–11 หลังจากที่บุกไปเสมอกับแบล็กเบิร์นโรเวอส์ด้วยผลประตู 1–1 เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2011[63] ต่อมาสโมสรชนะเลิศลีกเป็นสมัยที่ 20 ในฤดูกาล 2012–13 หลังจากที่เปิดบ้านเอาชนะแอสตันวิลลาด้วยผลประตู 3–0 เมื่อวันที่ 22 เมษายน ค.ศ. 2013[64]
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น